บริษัทที่เลิศในบรรดาบริษัททั้งสองพวกนั้น คือบริษัทปฏิปุจฉาวินีตา ปริสา โน อุกกาจิตวินีตา |
๕. ทรงกำชับให้ศึกษาปฏิบัติเฉพาะจากคำของพระองค์เท่านั้น อย่าฟังคนอื่น
ภิกษุทั้งหลาย ! พวกภิกษุบริษัทในกรณีนี้
สุตตันตะเหล่าใด
ที่กวีแต่งขึ้นใหม่
เป็นคำร้อยกรองประเภทกาพย์กลอน
มีอักษรสละสลวย
มีพยัญชนะอันวิจิตร
เป็นเรื่องนอกแนว
เป็นคำกล่าวของสาวก
เมื่อมีผู้นำสุตตันตะเหล่านั้นมากล่าวอยู่
เธอจักไม่ฟังด้วยดี
ไม่เงี่ยหูฟัง
ไม่ตั้งจิตเพื่อจะรู้ทั่วถึง
และจักไม่สำคัญว่าเป็นสิ่งที่ตนควรศึกษาเล่าเรียน.
ภิกษุทั้งหลาย ! ส่วน
สุตตันตะเหล่าใด
ที่เป็นคำของตถาคต
เป็นข้อความลึก
มีความหมายซึ้ง
เป็นชั้นโลกุตตระ
ว่าเฉพาะด้วยเรื่องสุญญตา
เมื่อมีผู้นำสุตตันตะเหล่านั้นมากล่าวอยู่
เธอย่อมฟังด้วยดี
ย่อมเงี่ยหูฟัง
ย่อมตั้งจิตเพื่อจะรู้ทั่วถึง
และย่อมสำคัญว่าเป็นสิ่งที่ตนควรศึกษาเล่าเรียน
จึงพากันเล่าเรียน
ไต่ถาม
ทวนถามแก่กันและกันอยู่ว่า
“ข้อนี้เป็นอย่างไร ? มีความหมายกี่นัย
?
” ดังนี้. ด้วยการทำดังนี้
เธอย่อมเปิดธรรมที่ถูกปิดไว้ได้
ธรรมที่ยังไม่ปรากฏ
เธอก็ทำให้ปรากฏได้
ความสงสัยในธรรมหลายประการที่น่าสงสัยเธอก็บรรเทาลงได้
ภิกษุทั้งหลาย! บริษัทชื่อ
อุกกาจิตวินีตา
ปริสา
โน
ปฏิปุจฉาวินีตา
เป็นอย่างไรเล่า?
ภิกษุทั้งหลาย ! ในกรณีนี้คือ
ภิกษุทั้งหลายในบริษัทใด
เมื่อสุตตันตะทั้งหลาย
อันเป็นตถาคตภาษิต
อันลึกซึ้ง
มีอรรถอันลึกซึ้ง
เป็นโลกุตตระ
ประกอบด้วยเรื่องสุญญตา
อันบุคคลนำมากล่าวอยู่
ก็ไม่ฟังด้วยดี
ไม่เงี่ยหูฟัง
ไม่เข้าไปตั้งจิตเพื่อจะรู้ทั่วถึง
และไม่สำคัญว่า
เป็นสิ่งที่ตนควรศึกษาเล่าเรียน
ส่วนสุตตันตะเหล่าใด
ที่กวีแต่งขึ้นใหม่
เป็นคำร้อยกรองประเภทกาพย์กลอน
มีอักษรสละสลวย
มีพยัญชนะอันวิจิตร
เป็นเรื่องนอกแนว
เป็นคำ
กล่าวของสาวก
เมื่อมีผู้นำสุตตันตะเหล่านี้มากล่าวอยู่
พวกเธอย่อมฟังด้วยดี
เงี่ยหูฟัง
ตั้งจิตเพื่อจะรู้ทั่วถึง
และสำคัญไปว่าเป็นสิ่งที่ตนควรศึกษาเล่าเรียน
พวกเธอเล่าเรียนธรรมอันกวีแต่งใหม่นั้นแล้ว
ก็ไม่สอบถามซึ่งกันและกัน
ไม่ทำให้เปิดเผยแจ่มแจ้งออกมาว่า
ข้อนี้พยัญชนะเป็นอย่างไร
อรรถะเป็นอย่างไร
ดังนี้
เธอเหล่านั้นเปิดเผยสิ่งที่ยังไม่เปิดเผยไม่ได้
ไม่หงายของที่คว่ำอยู่ให้หงายขึ้นได้
ไม่บรรเทาความสงสัยในธรรมทั้งหลายอันเป็นที่ตั้งแห่งความสงสัย
มีอย่างต่าง
ๆ
ได้
ภิกษุทั้งหลาย
! นี้เราเรียกว่า อุกกาจิตวินีตา
ปริสา
โน
ปฏิปุจฉาวินีตา
ภิกษุทั้งหลาย ! บริษัทชื่อ
ปฏิปุจฉาวินีตา
ปริสา
โน
อุกกาจิตวินีตา
เป็นอย่างไรเล่า?
ภิกษุทั้งหลาย ! ในกรณีนี้คือ
ภิกษุทั้งหลายในบริษัทใด
เมื่อสุตตันตะทั้งหลาย
ที่กวีแต่งขึ้นใหม่
เป็นคำร้อยกรองประเภทกาพย์กลอน
มีอักษรสละสลวย
มีพยัญชนะอันวิจิตร
เป็นเรื่องนอกแนว
เป็นคำกล่าวของสาวก
อันบุคคลนำมากล่าวอยู่
ก็ไม่ฟังด้วยดี
ไม่เงี่ยหูฟัง
ไม่เข้าไปตั้งจิตเพื่อจะรู้ทั่วถึง
และไม่สำคัญว่าเป็นสิ่งที่ตนควรศึกษาเล่าเรียน
ส่วน สุตตันตะเหล่าใด
อันเป็นตถาคตภาษิต
อันลึกซึ้ง
มีอรรถอันลึกซึ้ง
เป็นโลกุตตระประกอบด้วยเรื่องสุญญตา
เมื่อมีผู้นำสุตตันตะเหล่านี้มากล่าวอยู่
พวกเธอย่อมฟังด้วยดี
ย่อมเงี่ยหูฟัง
ย่อมเข้าไปตั้งจิตเพื่อจะรู้ทั่วถึง
และย่อมสำคัญว่าเป็นสิ่งที่ควรศึกษาเล่าเรียน
พวกเธอเล่าเรียนธรรมที่เป็นตถาคตภาษิตนั้นแล้ว
ก็สอบถามซึ่งกันและกัน
ทำให้เปิดเผยแจ่มแจ้งออกมาว่า
ข้อนี้พยัญชนะเป็นอย่างไร
อรรถะเป็นอย่างไร
ดังนี้
เธอเหล่านั้นเปิดเผยสิ่งที่ยังไม่เปิดเผยได้
หงายของที่คว่ำอยู่ให้หงายขึ้นได้
บรรเทาความสงสัยในธรรมทั้งหลาย
อันเป็นที่ตั้งแห่งความสงสัย
มีอย่างต่าง
ๆ
ได้
ภิกษุทั้งหลาย
! นี้เราเรียกว่า ปฏิปุจฉาวินีตา
ปริสา
โนอุกกาจิตวินีตา.
ภิกษุทั้งหลาย ! เหล่านี้แลบริษัท ๒ จำพวกนั้น ภิกษุทั้งหลาย! บริษัทที่เลิศในบรรดาบริษัททั้งสองพวกนั้น คือบริษัทปฏิปุจฉาวินีตา ปริสา โน อุกกาจิตวินีตา
(บริษัทที่อาศัยการสอบสวนทบทวนกันเอาเองเป็นเครื่องนำไป
:ไม่อาศัยความเชื่อจากบุคคลภายนอกเป็นเครื่องนำไป)
แล.
ทุก. อํ.
๒๐
/ ๙๑ / ๒๙๒
อริยสัจจากพระโอษฐ์ ภาคต้น
น.
๕๐๕
0 comments:
Post a Comment