/> ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ | รัตนะ5 พุทธวจน

ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ

Photo Credit : lifewithdogs
ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สุนัขที่เขาผูกไว้ด้วยเชือก ถูกล่ามไว้ที่หลักหรือเสาอันมั่นคง ย่อมวิ่งวนเวียนหลักหรือเสานั้นเอง แม้ฉันใด ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ ฉันนั้นเหมือนกันแล


๗. คัททูลสูตรที่ ๑ 

ว่าด้วยอุปมาขันธ์ ๕ ด้วย เสาล่ามสุนัข 


[๒๕๖] พระนครสาวัตถี ฯลฯ 

ดูกรภิกษุทั้งหลาย สงสารนี้มีที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายรู้ไม่ได้แล้ว ที่สุดเบื้องต้น ย่อมไม่ปรากฏสำหรับ สัตว์ทั้งหลายผู้มีอวิชชาเป็นเครื่องกางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่ 

มหาสมุทรยังมีสมัยเหือดแห้งไม่เป็นมหาสมุทร แต่เราไม่กล่าวว่าสัตว์ทั้งหลายผู้มีอวิชชาเป็นเครื่องกางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้ ท่อง เที่ยวไปมาอยู่จะกระทำที่สุดทุกข์ได้ 

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ขุนเขาสิเนรุยังมีสมัยที่ถูกไฟไหม้พินาศไปมีอยู่ไม่ได้ แต่เรากล่าวไม่ได้ถึงการกระทำที่สุดทุกข์แห่งสัตว์ทั้งหลายผู้มีอวิชชาเป็นเครื่องกางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบ ท่องเที่ยวไปมาอยู่

ดูกรภิกษุทั้งหลาย แผ่นดินใหญ่ยังมีสมัยที่ถูกไฟไหม้พินาศไป มีอยู่ไม่ได้ แต่เราไม่กล่าวว่าสัตว์ทั้งหลายผู้มีอวิชชาเป็นเครื่องกางกั้น มี ตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่ จะกระทำที่สุดทุกข์ได้ 

[๒๕๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย 
สุนัขที่เขาผูกไว้ด้วยเชือก ถูกล่ามไว้ที่หลักหรือเสาอันมั่นคง ย่อมวิ่งวนเวียนหลักหรือเสานั้นเอง แม้ฉันใด ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ ฉันนั้นเหมือนกันแล 
ไม่ได้เห็นพระอริยเจ้า ไม่ฉลาดในอริยธรรม ไม่ได้รับแนะนำในอริยธรรม ไม่ได้เห็นสัตบุรุษ ไม่ฉลาดในสัปปุริสธรรม ไม่ได้รับแนะนำในสัปปุริสธรรม 

  • ย่อมตามเห็นรูปโดยความเป็นตน เห็นตนมีรูป เห็นรูปในตน หรือเห็นตนในรูป 
  • ย่อมตามเห็นเวทนาโดยความเป็นตน เห็นตนมีเวทนา เห็นเวทนาในตน เห็นตนในเวทนา
  • เห็นสัญญาโดยความเป็นตน เห็นตนมีสัญญา เห็นสัญญาในตน หรือเห็นตนในสัญญา 
  • เห็นสังขารโดยความเป็นตน เห็นตนมีสังขาร เห็นสังขารในตน หรือเห็นตนในสังขาร
  • เห็นวิญญาณ โดยความเป็นตน เห็นตนมีวิญญาณ เห็นวิญญาณในตน หรือเห็นตนในวิญญาณ 

เขาย่อมแล่น วนเวียนรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณนั้นเอง เมื่อเขาแล่นวนเวียน รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณอยู่ ย่อมไม่พ้นไปจากรูป ไม่พ้นไปจากเวทนา ไม่พ้นไปจากสัญญา ไม่พ้นไป จากสังขาร ไม่พ้นไปจากวิญญาณ ไม่พ้นไปจากชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส เรากล่าวว่าย่อมไม่พ้นไปจากทุกข์ 

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ส่วน อริยสาวกผู้ได้สดับ ได้เห็น พระอริยเจ้า ฉลาดในอริยธรรม ได้รับแนะนำดีแล้วในอริยธรรม ได้เห็นสัตบุรุษ ฉลาดใน สัปปุริสธรรม ได้รับแนะนำดีแล้วในสัปปุริสธรรม 

  • ย่อมไม่พิจารณาเห็นรูปโดยความเป็นตน ไม่เห็นตนมีรูป ไม่เห็นรูปในตน หรือไม่เห็นตนในรูป
  • ไม่พิจารณาเห็นเวทนา โดยความเป็นตน ไม่เห็นตนมีเวทนา ไม่เห็นเวทนาในตน หรือไม่เห็นตนในเวทนา
  • ไม่พิจารณาเห็นสัญญา โดยความเป็นตน ไม่เห็นตนมีสัญญา ไม่เห็นสัญญาในตน หรือไม่เห็นตนในสัญญา
  • ไม่พิจารณา เห็นสังขาร โดยความเป็นตน ไม่เห็นตนมีสังขาร ไม่เห็นสังขารในตน หรือไม่เห็นตนในสังขาร 
  • ไม่พิจารณาเห็นวิญญาณ โดยความเป็นตน ไม่เห็นตนมีวิญญาณ ไม่เห็นวิญญาณในตน หรือไม่เห็นตนในวิญญาณ 

อริยสาวกนั้นย่อมไม่แล่นวนเวียนรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ อริยสาวกนั้นเมื่อไม่แล่นวนเวียนรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ย่อมพ้นจากรูป พ้นจากเวทนา พ้นจากสัญญา พ้นจากสังขาร พ้นจากวิญญาณ พ้นจากชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส เรากล่าวว่าย่อมพ้นไปจากทุกข์ 

จบ สูตรที่ ๗

พระไตรปิฎก ไทย (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๑๗
สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค


Booking.com
Share on Google Plus

About Unknown

    Blogger Comment
    Facebook Comment

0 comments:

Post a Comment