/> เปรียบภิกษุผู้มีศึลดุจผ้ากาสี | รัตนะ5 พุทธวจน

เปรียบภิกษุผู้มีศึลดุจผ้ากาสี



ภิกษุ ท.! ผ้ากาสี แม้ยังใหม่อยู่ สีก็งาม นุ่มห่มเข้าก็สบายเนื้อ ราคาก็แพง,
แม้จะกลางใหม่กลางเกล่าแล้ว สีก็ยังงาม นุ่งห่มเข้าก็ยังสบายเนื้อราคาก็แพง,
แม้จะเก่าคร่ำแล้ว สีก็ยังงามนุ่งห่มเข้าก็ยังสบายเนื้อ ราคาก็แพงอยู่นั่นเอง.
ผ้ากาสีแม้ที่เก่าคร่ำแล้ว คนทั้งหลายก็ยังใช้เป็นผ้าห่อรตนะหรือเก็บไว้ในหีบอบ.

ภิกษุ ท.! ฉันใดก็ฉันนั้น, ภิกษุแม้เพิ่งบวชใหม่ ถ้าเป็นผู้มีศีล
มีความเป็นอยู่งดงาม, เราก็กล่าวว่า มีผิวพรรณงาม เหมือนผ้ากาสี ที่แม้
ยังใหม่อยู่ก็ดูสีงามฉะนั้น. เรากล่าวภิกษุนี้ว่า มีผ้ากาสีเป็นคู่เปรียบ. อนึ่ง
ชนเหล่าใด คบหา สมาคม เข้าใกล้ ทำตามเยี่ยงอย่างของภิกษุนั้น ข้อนั้น
จะเป็นทางให้เกิดสิ่งอันเป็นประโยชน์ อันเป็นความสุข แก่ชนเหล่านั้นเอง
ตลอดกาลนาน. เราจึงกล่าวภิกษุนั้นว่า ใครใกล้ชิดเข้าก็สบายตัว
เหมือนผ้ากาสี นุ่งห่มเข้าก็สบายเนื้อ ฉะนั้น. เรากล่าวภิกษุนี้ว่ามีผ้ากาสี
เป็นคู่เปรียบ. อนึ่ง ภิกษุนั้น รับจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลาน-
ปัจจัยเภสัชบริกขารของชนเหล่าใด ทานนั้น ย่อมมีผลใหญ่ มีอานิสงส์ใหญ่แก่ชนเหล่านั้น.
เราจึงกล่าวภิกษุนั้นว่า มีค่ามาก เหมือนผ้ากาสี มีราคาแพง ฉะนั้น.
เรากล่าวภิกษุนั้นว่า มีผ้ากาสีเป็นคู่เปรียบ.

ภิกษุ ท.! ภิกษุแม้มีอายุปูนกลาง ถ้าเป็นผู้มีศีล มีความเป็นอยู่
งดงาม. เราก็กล่าว่า มีผิวพรรณงาม เหมือนผ้ากาสี ที่แม้ยังใหม่อยู่ก็ดู
สีงาม ฉะนั้น. เรากล่าวภิกษุนี้ว่า มีผ้ากาสีเป็นคูเปรียบ. อนึ่ง ชนเหล่าใด
คบหา สมาคม เข้าใกล้ ทำตามเยี่ยงอย่างของภิกษุนั้น ข้อนั้น จะเป็นทาง
ให้เกิดสิ่งอันเป็นประโยชน์ สิ่งอันเป็นความสุขแก่ชนเหล่านั้นเอง ตลอดกาลนาน.
เราจึงกล่าวภิกษุนั้นว่า ใครใกล้ชิดเข้าก็สบายตัว เหมือนผ้ากาสี นุ่งห่ม
เข้าก็สบายเนื้อ ฉะนั้น. เรากล่าวภิกษุนี้ว่า มีผ้ากาสีเป็นคู่เปรียบ. อนึ่ง
ภิกษุนั้น รับจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริกขารของชน
เหล่าใด ทานนั้น ย่อมมีผลใหญ่ มีอานิสงส์ใหญ่แก่ชนเหล่านั้น. เราจึงกล่าว
ภิกษุนั้นว่า มีค่ามาก เหมือนผ้ากาสี มีราคาแพง ฉะนั้น. เรากล่าวภิกษุนี้ว่า
มีผ้ากาสีเป็นคู่เปรียบ.

ภิกษุ ท.! ภิกษุแม้ผู้เป็นเถระ ถ้าเป็นผู้ถือศีล มีความเป็นอยู่งดงาม,
เราก็กล่าวว่า มีผิวพรรณงาม เหมือนผ้ากาสี ที่แม้ยังใหม่อยู่ก็ดูสีงาม ฉะนั้น.
เรากล่าวภิกษุนี้ว่า มีผ้ากาสีเป็นคูเปรียบ. อนึ่ง ชนเหล่าใด คบหา สมาคม
เข้าใกล้ ทำตามเยี่ยงอย่างของภิกษุนั้น ข้อนั้น จะเป็นทางให้เกิดสิ่งอันเป็น
ประโยชน์ สิ่งอันเป็นความสุขแก่ชนเหล่านั้น ตลอดกาลนาน. เราจึงกล่าว
ภิกษุนี้ว่า ใครใกล้ชิดเข้าก็สบายตัว เหมือนผ้ากาสี นุ่งห่มเข้าก็สบายเนื้อ
ฉะนั้น. เรากล่าวภิกษุนี้ว่า มีผ้ากาสีเป็นคู่เปรียบ. อนึ่ง ภิกษุนั้น รับจีวร
บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริกขารของชนเหล่าใด ทานนั้น
ย่อมมีผลใหญ่ มีอานิสงส์ใหญ่แก่ชนเหล่านั้น. เราจึงกล่าวภิกษุนี้ว่า มีค่ามาก
เหมือนผ้ากาสี มีราคาแพง ฉะนั้น เรากล่าวภิกษุนี้ว่า มีผ้ากาสีเป็นคู่เปรียบ.
อนึ่ง ภิกษุผู้เถระเช่นนี้ กล่าวอะไรขึ้นในท่ามกลางสงฆ์ ภิกษุทั้งหลาย
ก็ช่วยกันบอกกล่าวว่า “ขอท่านทั้งหลาย จงเงียบเสียงเถิด, ภิกษุผู้เฒ่าจะกล่าว
ธรรมและวินัย บัดนี้” ดังนี้.

ภิกษุ ท.! เพราะฉะนั้น ในเรื่องนี้ พวกเธอทั้งหลาย พึงสำเหนียกใจ
ไว้ว่า “เราทั้งหลาย จักเป็นให้เหมือนอย่างผ้ากาสี ไม่เป็นอย่างผ้าเปลือก
ปอละ” ดังนี้.
ภิกษุ ท.! พวกเธอทั้งหลาย พึงสำเหนียกใจไว้อย่างนี้แล.
___________________________
บาลี พระพุทธภาษิต ติก. อํ. ๒๐/๓๑๙/๕๓๙, ตรัสแก่ภิกษุทั้งหลาย.
Share on Google Plus

About Unknown

    Blogger Comment
    Facebook Comment

0 comments:

Post a Comment